📣 ปุกาศ ปุกาศ 📣
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสงสัย เรื่องของมาตรการลดเงินสมทบประกันสังคม
วันนี้ EZY-HR สรุปมาให้แล้ว ว่าลดเท่าไหร่ เริ่มตอนไหน ระยะเวลากี่เดือน

มาตรการลดเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน
มาตรการลดเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน

📍 เริ่ม พ.ค. ถึง ก.ค. 65 📍

นายจ้าง
จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือ ร้อยละ 1

มาตรา 33
จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือ ร้อยละ 1

มาตรา 39
ลูกจ้างจะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 9 เหลือ ร้อยละ 1.9

มาตรา 40 ระยะเวลา **6 เดือน ก.พ. ถึง ก.ค. 65**
จะได้ลดเงินสมทบในแต่ละทางเลือกลงร้อยละ 40
ทางเลือกที่ 1
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 70 บาท ลดลงเหลือ 42 บาท
ทางเลือกที่ 2
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 100 บาท ลดลงเหลือ 60 บาท
ทางเลือกที่ 2
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 300 บาท ลดลงเหลือ 180 บาท

_____________________________________

Web : www.ezy-hr.com
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318
#ระบบลางานออนไลน์ #ภาษี2565 #ลดหย่อนภาษี
#โปรแกรมลาออนไลน์ #ประกัน
#ระบบลาออนไลน์
#โปรแกรมคิดเงินเดือนพนักงาน
#โปรแกรมเงินเดือน #โปรแกรมเงินเดือน
#hr #HR #ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล
#โปรแกรมคํานวณเงินเดือน

#ระบบลางานออนไลน์ #ภาษี2565 #ลดหย่อนภาษี #โปรแกรมลาออนไลน์ #ประกัน #ระบบลาออนไลน์ #โปรแกรมคิดเงินเดือนพนักงาน #โปรแกรมเงินเดือน #โปรแกรมเงินเดือน #hr #HR #ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล #โปรแกรมคํานวณเงินเดือน
วันนี้เรามาต่อกันที่ EP. 2 กันนะคะ
สำหรับ ep. นี้จะเกี่ยวกับกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
เราเชื่อเลยว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ ว่าการทำประกัน หรือการลงทุนต่าง ๆ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ วันนี้ EZY-HR เลยรวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนในโพสต์นี้ มาอ่านกันเยอะ ๆ น้าาา !
ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน
📍 ลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน
ยื่นภาษี
1.เงินส่งสมทบประกันสังคม สำหรับในปี 2564 นี้
สามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 5,100 บาท จากเดิมที่ลดหย่อนได้สูงสุด 9,000 บาท ( เนื่องจากปี 2564 มีการปรับลดเงินนำส่งสมทบประกันสังคมเพื่อลดภาระในช่วงโควิด-19 ถึง 3 รอบ คือ รอบเดือนมกราคม เหลือ 3% ,รอบเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เหลือ 0.5% และรอบเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน เหลือ 2.5% )
2.ประกันชีวิต ประกันแบบสะสมทรัพย์
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เงื่อนไข
– เป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
– เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในไทย
3. ประกันสุขภาพ
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันต้องไม่เกิน 25,000 บาท
ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
4.ประกันสุขภาพของบิดา-มารดา
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
เงื่อนไข
– บิดา – มารดา ต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษีที่หักลดหย่อนเกิน 30,000 บาท
4.เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
เงื่อนไข
– ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
– เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย
📍 ลดหย่อนภาษีกลุ่มการลงทุน (รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท )
ยื่นภาษีลงทุน
1.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
2.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท
3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
สามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
4.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
ตามที่จ่ายจริง สูงสุดปีละ 13,200 บาท
5.เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ
15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
📍 ค่าลดหย่อนภาษีที่อยู่อาศัย
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
📍 ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
ยืนภาษีกลุ่มบริจาค
1. เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง
นำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
2. เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ
หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น
3. เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักลดหย่อนจากเงินบริจาคเพื่อการศึกษา
และทั้งหมดนี่เป็นการลดหย่อนภาษีที่ EZY-HR รวมไว้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนน้าาา
อย่าลืมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีปีนี้กันนะทุกคน
_____________________________________
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318

ยังใช้โปรแกรมเดิมอยู่หรอ ?

เป็นคำถามที่เหมือนจะจี้ใจดำ HR หลาย ๆ คน ที่อยากเปลี่ยนโปรแกรมใหม่ แต่บริษัทไม่อนุมัติสักที วันนี้เราเลยจะพาไปดูข้อดี ที่ทำไมถึงควรเปลี่ยนโปรแกรมใหม่

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป HR อย่างเรา ๆ ก็อยากให้อะไร ๆ เปลี่ยนตาม โดยเฉพาะระบบการทำงานหลังบ้าน ที่อยากให้ทันสมัยขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น มีฟังก์ชั่นครบ และที่สำคัญทำงานเรียลไทม์มากขึ้น ไม่ต้องมาคอยทวง หรือตามเอกสาร

ทำไมถึงควรเปลี่ยนโปรแกรมใหม่
ทำไมถึงควรเปลี่ยนโปรแกรมใหม่

แล้ว….. คือไม่ได้อวยหรืออะไร แต่เพราะแอปเรามันดี และตอบโจทย์ HR ยุคใหม่มากกก
ด้วยฟังก์ชั่นที่ครบ เข้าใช้งานง่ายผ่านคอม หรือโทรศัพท์ก็ได้ แถมยุคโควิดแบบนี้ก็สามารถทำงานที่บ้านได้แบบแผนกอื่น ๆ อีกด้วย แค่นี้ก็เป็นเหตุผลมากพอที่เราควรจะเปลี่ยนมาใช้ EZY-HR แล้ว

แต่……….. ยังไม่หมดแค่นั้น เราจะขอเล่าเพิ่มอีกนิดว่ามีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง

  • สแกนเข้า/ออกงาน ง่าย ๆ ได้ทุกที่
  • เช็คโควต้าวันหยุด ขาด ลา มาสายได้แบบเรียลไทม์
  • เบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ผ่านแอพได้เลย
  • มีประวัติเกี่ยวกับโควิดแค่มีฟังก์ชั่นแบบนี้ก็ช่วยให้ HR อย่างเราทำงานง่ายขึ้นเป็นกอง
    ถ้า HR คนไหนสนใจ ก็ลองมาคุยกับเราได้น้าาา
    รับรองว่าบริษัทอนุมัติให้เปลี่ยนอย่างแน่นอน

ถ้าพูดถึงเรื่องยื่นภาษีทีไร เพื่อน ๆ หลายคนก็แอบหนักใจทุกที

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถลดหย่อนได้นะทุกคนนน !

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 10,000 บาท/เดือน
หรือ 120,000/ปี ต้องยื่นภาษีทุกคน และไม่ใช่ทุกคนที่จะโดนเรียกเก็บภาษี
และที่สำคัญ คือ การคำนวนภาษี คำนวนจากรายได้หลังโดนหักลบค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้ว บอกเลยว่าเพื่อน ๆ ทุกคนสบายใจได้

ยื่นภาษีปี 64 ลดหย่อนอะไรได้บ้าง EZY-HR โปรแกรมเงินเดือน

มาดูกันดีกว่าว่ายื่นภาษีปี 64 ลดหน่อยอะไรได้บ้าง?

1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส จำนวน 60,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องถามกฎหมาย และคู่สมรสจะต้องไม่มีรายได้
3. ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาทต่อครรภ์ โดยสามีสามารถลดหย่อนภาษีในกรณีที่ภรรยาไม่มีเงินได้ เอกสารหลักฐานที่ใช้สำหรับการลดหย่อนภาษี คือ ใบเสร็จรับเงิน และใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาล
4. ค่าลดหย่อนบุตร คนละ 30,000 บาท โดยจะต้องเป็นบุตรโดยกฎหมาย หรือบุตรบุญธรรม และมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรืออายุไม่เกิน 25 ปี
5. ค่าลดหย่อนบุตร คนที่ 2 ที่เกิดปี 2560 เป็นต้นไป
สามารถลดหย่อยนได้ คนละ 60,000 บาท
6. ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและคู่สมรส ซึ่งบิดามารดาจะต้องไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้ไม่เกินคนละ 30,000 บาทต่อปี และต้องมีอายุ 60ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
สามารถลดหย่อนได้ คนละ 30,000 บาท
7. ค่าลดหย่อนกรณีอุปการะผู้พิการหรือบุคคลทุพลภาพ สามารถลดหย่อนได้ คนละ 60,000 บาท และผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และมีบัตรประจำตัวผู้พิการ
และทั้งหมดนี่เป็นการลดหย่อนภาษีที่ EZY-HR รวมไว้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนน้าาา
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318
Posted in HR.

ปัจจุบัน เรากำลังเข้าสู่เทคโนโลยี 4.0 ครับ ดังนั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจึงมีสูงมาก และเป็นการ Global World Wide ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า เราไม่ได้มีผลกระทบกับคนทั้งโลกอีกต่อไป ดังนั้นแล้ว พนักงานแบบไหนล่ะ ที่พนักงานมองหาอยู่

ทักษะแรก คงหนีไม่พ้นเรื่องของภาษา : เพราะโลกยุคปัจจุบัน เป็นสังคมออนไลน์ สิ่งที่เราค้นหาบน website จึงมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราอาจจะต้องติดต่อ ค้นหาข้อมูล หรืออื่นๆ ดังนั้น การเรียนรู้ภาษาที่สอง สาม สี่ จึงเป็นเรื่องสำคัญ และทำให้เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่น
ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต : คงเคยได้ยินใช่ไหมครับว่าจงทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วเสมอ เพื่อพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต และพัฒนาตัวเราเองอยู่เสมอ ซึ่งการทำงานก็เป็นไปตามที่ว่ามานี้ สิ่งที่เรารู้ดีอยู่แล้ว อาจจะมีคนอื่นทำได้ดีกว่าเรา เร็วกว่าเรา เชี่ยวชาญกว่าเราก็ได้ และเราควรเรียนรู้จากคนเหล่านั้น เพื่อพัฒนาตัวเราเองและงานให้ดีขึ้น
ทักษะการคิด ตัดสินใจและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า : การคิดไม่ใช่เพียงแต่คิดได้ แต่ต้องคิดให้เป็นและคิดให้ทันด้วย เพราะบางครั้ง การเจรจาธุรกิจเขาจะไม่บอกเราตรงๆ มันจะมีนัยยะแฝงอยู่เสมอ หากเราคิดไม่ทัน มองไม่ออก อาจเสียโอกาสเหล่านั้นไป และเมื่อคิดได้แล้ว ต้องตอบให้เป็น ตัดสินใจดำเนินการ เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จของเราให้มากขึ้น
ทักษะการวิเคราะห์และสังเคราะห์ : เราจำเป็นต้องวิเคราะห์ให้เป็นถึงเนื้องาน ปัญหา สิ่งที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้สามารถทราบถึงสิ่งที่บริษัทต้องการและทำงานได้อย่างถูกต้อง และเมื่อวิเคราะห์ได้แล้ว เราก็ต้องสังเคราะห์ให้ได้ว่า แล้วเราควรทำอย่างไรล่ะ เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ของการทำงานนั้นๆ วางลำดับขั้นตอน หนึ่ง สอง สาม เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย
ทักษะการเข้าสงคม : อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ปัญหานี้ปัจจุบันกำลังเป็นปัญหาใหญ่ มีบ่อยครั้งที่พนักงานเป็นคนเก็บตัว ไม่คบหาสมาคมกับใคร พูดน้อย หรือไม่ก็สุดโต่งไปอีกฝั่งอย่างพวกมั่นใจในตนเอง ไม่ฟังใคร อีโก้สูง สิ่งเหล่านี้ ทำให้ทีมเกิดความแตกแยก ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้เกิดปัญหาในการทำงานบ่อยครั้ง และด้วยสังคม Social ในปัจจุบัน ทำให้คนมักมองโทรศัพท์มากกว่ามองหน้าเพื่อน ดังนั้น จึงควรปรับปรุงตัวเองในเรื่องนี้ด้วย
ทักษะอดทนและขยันทำงาน : อดทนและขยันทำงาน มันก็เรื่องพื้นๆ นี่นา ใช่ครับ มันพื้นๆ แต่นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่บริษัทจะเจอในหมู่พนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มั่นใจในตนเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง ทำงานได้ไม่เท่าไหร่ ไม่ชอบใจก็ลาออก ไม่ชอบนายจ้าง ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน ก็ลาออก ไม่เข้าใจกระบวนการทำงานแบบบริษัท ทำงานไม่ได้ก็ลาออก เราจึงเห็นคนรุ่นใหม่หันมาเปิดกิจการเป็นของตัวเองมากขึ้น เพราะเขาต้องการเป็นนายของตัวเองด้วยความฝันอันสวยหรู เช่นธุรกิจยอดฮิตอย่างร้านกาแฟ
ทักษะพิเศษ : เช่นความรู้เฉพาะทางที่เรามี ซึ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้รับการจ้างที่ง่ายขึ้น เพราะเป็นทักษะที่หายาก ซึ่งจะทำให้ได้รับค่าจ้างที่แพงขึ้นด้วย เช่น ทักษะทางด้านรังสี ทักษะด้านการแพทย์
ยังมีอีกมากครับ ที่จะทำให้เราได้รับการจ้างที่ง่ายขึ้น แต่เหล่านี้ที่ได้กล่าวไปแล้วล้วนเป็นแกนหลักที่สำคัญที่จะทำให้เราได้รับการจ้างงานมากขึ้นครับ

สาระน่ารู้วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการเลิกจ้างพนักงานกันค่ะ ในกรณีที่ลูกจ้างลาป่วย ลากิจบ่อยๆนั้นนายจ้างสามารถเลิกจ้างได้หรือไม่?!
.
.
ลากิจลาป่วยบ่อย
เลิกจ้างเพราะพนักงานหย่อนสมรรถภาพในการทำงานหรือขาดงานบ่อย นายจ้างจะพิจารณาเลิกจ้างได้อย่างไร? ที่ผ่านมาแอดมินมักจะพูดถึงกรณีของลูกจ้างเสียส่วนใหญ่ วันนี้เราจะมาดูในกรณีของนายจ้างกันบ้างค่ะ
.
.
หากลูกจ้างลาป่วยลากิจบ่อยครั้ง นายจ้างเตือนและให้เข้าโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน แต่ลูกจ้างก็ยังไม่ปรับปรุงพฤติการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นการหย่อนสมรรถภาพในการทำงาน นายจ้างเลิกจ้างได้ มิใช่เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม
.
.
จากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 48/2560
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างตำแหน่งฝ่ายการผลิต เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2549 ต่อมาวันที่ 4 เมษายน 2557 จำเลยเลิกจ้างโจทก์ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2557 เป็นต้นไป ขอให้จำเลยชำระค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
.
.
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากสถิติการลาป่วยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 – 2556 มีจำนวนมาก มีผลทำให้โจทก์เป็นผู้หย่อนสมรรถภาพในหน้าที่การงานและมีผลการทำงานตกต่ำตลอดมา จำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงเป็นไปตามข้อบังคับการทำงานหมวดที่ 11
.
.
ศาลแรงงานภาค 2 พิจารณาแล้วเห็นว่าแม้โจทก์ลาป่วย ลากิจบ่อยครั้งจนเคยได้รับหนังสือเตือนจากจำเลย แต่กรณีดังกล่าวมิได้เข้าลักษณะเป็นผู้หย่อนสมรรถภาพ หรือไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือนจนมิอาจปฏิบัติหน้าที่การงานของตนให้แก่จำเลยได้ เพียงแต่โจทก์ประพฤติตนบกพร่องไม่เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่และขาดความรับผิดชอบเท่านั้น จึงพิพากษาให้จำเลย จ่ายเงินจำนวน 26,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
.
.
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีแรงงาน เห็นว่า คดีนี้จำเลยเลิกจ้างโจทก์อ้างเหตุหย่อน สมรรถภาพในหน้าที่การทำงานหรือไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือนตามข้อบังคับการทำงานหมวดที่ 11 ซึ่งการหย่อนสมรรถภาพในหน้าที่การทำงานนั้นต้องพิจารณาถึงตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ ความสามารถ ในการทำงาน และการหย่อนลงของความสามารถมาประกอบ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นพนักงานเดินเครน จึงต้องอุทิศเวลาและความสามารถในการทำงานตามที่จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างมอบหมายให้สำเร็จ ลุล่วงอย่างเต็มความสามารถ แต่โจทก์กลับลาป่วยและลากิจบ่อยครั้งทำให้สถิติการหยุดงานหรือขาดงาน จนเคยได้รับหนังสือเตือนจากจำเลย อันมีผลให้จำเลยไม่ได้รับการทำงานตอบแทนจากโจทก์ในเวลาทำงานปกติ แม้จะเป็นการลาตามสิทธิซึ่งโจทก์ได้รับอนุญาตจากจำเลยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นการลาบ่อยครั้งจนเกินสมควร
อีกทั้งโจทก์ยังได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานปี 2553 – 2556 ในระดับที่ต้องปรับปรุง (เกรดซี) ติดต่อกัน จึงย่อมแสดงความสามารถในการทำงานของโจทก์ที่ลดน้อยถอยลงอย่างต่อเนื่องตลอดมา
.
.
ประกอบกับจำเลยเองก็ไม่ได้เลิกจ้างโจทก์โดยทันทีหลังจากที่มีผลการประเมินดังกล่าว แต่กลับยังได้ให้โอกาส โจทก์ในการแก้ไขฟื้นฟูความสามารถตามโครงการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานแล้ว โจทก์ก็ไม่ได้ปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น พฤติการณ์ของโจทก์ดังกล่าวถือว่าเป็นการหย่อนสมรรถภาพในการทำงาน จึงเป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุผลอันสมควรและเพียงพอ มิใช่เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างดังกล่าว ที่ศาลแรงงานภาค 2 พิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
.
.
.
ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิง: https://bit.ly/3eFWeKn
สนใจระบบโปรแกรมเงินเดือนไลน์ที่มีฟีเจอร์ครบ EZY-HR https://www.ezy-hr.com
Posted in HR.
นายจ้างเหมาจ่ายโอทีชั่วโมงละ 50 บาท โดยไม่สนว่าการทำงาน ล่วงเวลาของพนักงานนั้นเป็นการทำล่วงเวลาหลังเลิกงานในวันทำงาน ปกติ วันหยุดประจำสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขตฤกษ์ แบบนี้ถือว่าขัด ต่อกฎหมายแรงงานหรือไม่

 

ผู้เขียนเคยพบว่าแต่ละบริษัทมีการคำนวณค่าล่วงเวลาที่ต่างกันไป บ้างเหมาจ่ายเป็นรายชั่วโมง บางคำนวณตามเรทเงินเดือน เช่น ถ้าเงินเดือนไม่ถึง 20,000 คิดโอที 1.5 เท่าของค่าแรง แต่ถ้าเกิน 20,000 คิดที่ 130 บาท/ชั่วโมง ถ้าเป็นรายเดือน คิดโอที 1.5 เท่าของค่าแรง ฯลฯ เป็นต้น

 

เห็นไหมคะว่ามีการคำนวณค่าล่วงเวลาที่หลากหลายมากมายทีเดียว
แต่แล้วแบบใดถูก(ไม่ขัดต่อกฎหมายแรงงาน) แบบใดผิด (ขัดต่อกฎหมายแรงงาน) เรามาดูกันต่อเลยค่ะ

 

มาตรา 61 บัญญัติว่า “ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันทำงานให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย”

 

จากมาตรา 61 แล้ว หากพนักงานได้รับเงินเดือน 9,000 บาท คือวันละ 300 โอทีควรได้ 56.25 ต่อ ชั่วโมง พนักงานทำงาน 2 ชั่วโมง นายจ้างจ่ายให้ 100 บาท หรือเท่ากับชั่วโมงละ 50 บาท เช่นนี้จะถือว่าขัดต่อกฎหมายแรงงาน เพราะถือว่านายจ้างให้ค่าตอบแทนต่ำกว่าที่ลูกจ้างควรจะได้รับ

 

นอกจากนั้น มาตรา 63 ยังได้บัญญัติไว้อีกว่า “ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันหยุดให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันหยุดให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงใรวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย”

 

ตามมาตรา 63 แล้ว หากพนักงานได้รับเงินเดือน 10,500 บาท คือวันละ 350 ค่าล่วงเวลาที่พนักงานควรได้รับจากการทำงานนอกเวลางาน 8 ชั่วโมงแรกในวันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ 131.25 บาทต่อชั่วโมง ทำล่วงเวลาหลังเลิกงานจำนวน 2 ชั่วโมงถ้านายจ้างให้ค่าล่วงเวลาที่ 240 บาท หรือ 120 บาท/ชั่วโมง เช่นนี้จะถือว่าขัดต่อกฎหมายแรงงาน แต่ถ้านายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาให้ที่ 262.50 เช่นนี้เป็นการจ่ายค่าล่วงเวลาที่เป็นธรรมไม่ขัดต่อกฎหมายแรงงานค่ะ

 

 โอทีเหมาจ่ายรายชั่วโมง
สนใจโปรแกรมคำนวณเงินเดือนที่ช่วยให้คุณจัดการเรื่องโอทีได้อย่างถูกต้อง ลองดูรายละเอียดของโปรแกรมเงินเดือน EZY-HR ได้เลยค่ะ

เพราะเหตุใด EZY-HR Application จึงต้องมีโหมดเช็คอินผ่านมือถือให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย
.
.

แอพส์ เช็คอิน เข้าเวลางาน ทันสมัย
เหตุผลที่ EZY-HR Application มีโหมดการเช็คอินอย่างหลากหลายนั้น เพื่อต้องการตอบสนองความต้องการในการใช้งานของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมโดยคำนึงถึงรูปแบบธุรกิจเป็นหลัก ?
.
เช่นพนักงาน PC ตามห้างหรือพนักงานออกบูท ทางแอดมินสามารถกำหนดให้พนักงานทำการเช็คอินพร้อมถ่ายรูปตนเองคู่บูทได้ หรือหากเป็นเซลล์ที่ต้องออกไปพบลูกค้าบ่อยๆไม่สะดวกสแกนนิ้วผ่านเครื่องฟิงเกอร์สแกนก็สามารถเช็คอินผ่านมือถือได้ เป็นต้น
.
.
Q: ในกรณีที่ต้องการตั้งค่าการเช็คอิน – เอ้าท์ ผ่าน EZY-HR Application สามารถตั้งค่าการใช้งานของพนักงานแต่ละท่านให้ต่างกันได้หรือไม่ เช่นมีพนักงานบางกลุ่มที่ต้องการ Record เวลาเข้างานเท่านั้นไม่สนใจรูปและโลเคชั่นเป็นต้น

A: การใช้งาน EZY-HR Application สามารถเลือกโหมดในการเช็คอินเป็นรายบุคคลได้ค่ะ โดยมีโหมดการใช้งานให้เลือกดังต่อไปนี้

✅ No: ปิดการใช้งานเช็คอินจากหน้า mobile application

✅ NoFakeGPSCheck: ไม่อนุญาตให้มือถือติดตั้งโปรแกรมโกง GPS (จะมีแค่มือถือรุ่น Note 4 เท่านั้น)

✅ AllowNoGps: สามารถเช็คอินได้ แม้มือถือจะจับสัญญาณ GPS ไม่เจอ

✅ SelfieForceCheck: จะต้องถ่ายรูปและจับสัญญาณ GPS ให้เจอถึงจะสามารถเช็คอินได้

✅ BeaconForceCheck: จะต้องจับสัญญาณบีคอนให้เจอถึงจะสามารถกด เช็คอินได้

✅ BeaconAndSelfieForceCheck: จะต้องจับสัญญาณบีคอนให้เจอพร้อมถ่ายรูปจึงจะสามารถเช็คอินได้

สามารถดูวิธีการตั้งค่าได้ที่ https://bit.ly/323w1hC

ทางเลือกใหม่ของระบบบันทึกเวลาทำงานสำหรับองค์กรที่ทันสมัย
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.ezy-hr.com

โปรแกรม‌ ‌EZY-HR‌ ‌แนะนำ‌ ‌Add‌ ‌On‌ ‌ ‌
“‌Shift‌ ‌Request‌”‌‌ ‌‌พนักงาน‌ขอ‌สลับ‌กะ‌การ‌ทำงาน‌ของ‌ตัว‌เอง‌ใน‌วัน‌นั้นๆ‌ ‌

เรา‌ช่วย‌ทำงาน‌ใน‌ด้าน‌ใด‌?

พนักงาน‌สามารถ‌ส่ง‌คำขอ‌ ‌ความ‌ต้องการ‌จะ‌เปลี่ยน‌กะ‌การ‌ทำงาน‌ของ‌ตนเอง ‌ใน‌ช่วง‌เวลา‌ของ‌วัน‌นั้น‌ ‌
มายัง‌หัวหน้า‌ ‌โดย‌ผ่าน‌ระบบ‌หรือApplication‌ ‌ได้‌ ‌เมื่อ‌พนักงาน‌ส่ง‌คำขอ‌ ‌ระบบ‌จะ‌ทำ‌การ‌เเจ้ง‌เตือน‌
มายัง‌หัวหน้า‌ให้‌รับ‌ทราบ‌ ‌โดย‌สามารถ‌กด‌อนุมัติ‌ผ่าน‌ระบบ‌หรือAppได้‌ทันที‌ ‌เมื่อ‌หัวหน้า‌ทำการ‌อนุมัติ‌
ระบบ‌จะ‌ทำการ‌ปรับ‌เปลี่ยน‌ข้อมูล‌ภาพ‌รวม‌ ตาราง‌การ‌ทำงาน‌ของ‌พนักงาน‌ให้‌อัตโนมัติ‌ ‌

เเก้‌ไข‌ปัญหา‌อะไร‌ได้‌บ้าง‌ ‌
● พนักงาน‌ขอ‌เปลี่ยน‌กะ‌งาน‌ได้‌ด้วย‌ตัว‌เอง‌ ‌
● HR‌ ‌หรือ‌หัวหน้า‌ทำงาน‌ได้‌สะดวก‌ ‌รวดเร็ว‌ ‌เเละ‌ถูก‌ต้อง‌เเม่น‌ยำ‌มาก‌ขึ้น‌ ‌
● พนักงาน‌ไม่‌จำเป็น‌ต้อง‌เดิน‌ไป‌หา‌หัวหน้า‌งาน‌ ‌

“‌Shift‌ ‌Swap‌ ‌Request‌”‌‌ ‌‌พนักงาน‌ขอ‌สลับ‌กะ‌การ‌ทำงาน‌ ใน‌วัน‌ทำงาน‌วัน‌อื่น‌หรือ‌วัน‌หยุด‌ ‌

เรา‌ช่วย‌ทำงาน‌ใน‌ด้าน‌ใด‌ ‌

เมื่อ‌พนักงาน‌ส่ง‌คำขอ‌ ‌Shift‌ ‌Swap‌ ‌Request‌ ‌คือ‌การ‌ขอ‌สลับ‌กะ‌การ‌ทำงาน‌ของ‌ตนเอง‌ ‌โดย‌เรา‌อยาก‌
มา‌ทำงาน‌ใน‌วัน‌หยุด ‌เเท‌นวัน‌ที่‌เรา‌ต้อง‌มา‌ทำงาน‌ ‌ผ่าน Application‌ ‌หรือ‌ ‌ระบบ‌ ‌มายัง‌หัวหน้า‌ ‌
ระบบ‌จะ‌ทำ‌การ‌เเจ้ง‌เตือน‌มายัง‌หัวหน้า‌ให้‌รับ‌ทราบ‌ ‌โดย‌สามารถ‌กด‌อนุมัติ‌ผ่าน‌ระบบ‌หรือ App ได้‌ทันที‌ ‌
เมื่อ‌หัวหน้า‌ทำการ‌อนุมัติ ‌ระบบ‌จะ‌ทำการ‌ปรับ‌เปลี่ยน‌ข้อมูล‌ภาพ‌รวม‌ตาราง‌การ‌ทำงาน‌ของ‌พนักงาน‌ให้‌
อัตโนมัติ‌ ‌

‌เเก้‌ไข‌ปัญหา‌อะไร‌ได้‌บ้าง‌ ‌
● พนักงาน‌ขอ‌เปลี่ยน‌กะ‌งาน‌ได้‌ด้วย‌ตัว‌เอง‌ ‌
● HR‌ ‌หรือ‌หัวหน้า‌ทำงาน‌ได้‌สะดวก‌ ‌รวดเร็ว‌ ‌เเละ‌ถูก‌ต้อง‌เเม่น‌ยำ‌มาก‌ขึ้น‌ ‌
● พนักงาน‌ไม่‌จำเป็น‌ต้อง‌เดิน‌ไป‌หา‌หัวหน้า‌งาน‌ ‌


“‌Shift‌ ‌Swap‌ ‌Staff‌ ‌Request‌”‌‌ ‌‌พนักงาน‌ขอ‌สลับ‌กะ‌การ‌ทำงาน‌ใน‌วัน‌ทำงาน‌หรือ‌วัน‌หยุด‌กับ‌เพื่อน‌ร่วม‌งาน‌”‌ ‌
เรา‌ช่วย‌ทำงาน‌ใน‌ด้าน‌ใด‌ ‌

เมื่อ‌พนักงาน‌ส่ง‌คำขอ‌มายัง‌หัวหน้า‌งาน‌ผ่าน‌ระบบ ‌โดย‌พนักงาน‌ต้องการ‌ที่‌จะ‌สลับ‌กะ‌การ‌ทำงาน‌กับ‌เพื่อน‌ร่วม‌งาน‌ ระบบ‌จะ‌ประเมิน‌คำ‌ขอเเละ‌เปลี่ยน‌เเป‌ลง‌ข้อมูล‌ได้‌อย่าง‌รวดเร็ว‌และ‌ทำการ‌เปลี่ยน‌ ‌
เเป‌ลง‌ข้อมูล‌ใน‌ตาราง‌งาน‌ให้‌ทัน‌ ‌หัว‌หน้า‌งาน‌เเละHR สามารถ‌ทราบ‌ตาราง‌การ‌ทำงาน‌ของ‌พนัก‌งาน‌ได้‌
เเบ‌บทัน‌ที‌ ‌ใน‌การ‌ตรวจ‌สอบ‌เเละ‌หา‌จำนวน‌พนักงาน ‌ให้‌เพียง‌พอ‌ต่อ‌การ‌ทำ‌งาน‌เเละ‌บริการ‌ ‌


เเก้‌ไข‌ปัญหา‌อะไร‌ได้‌บ้าง‌ ‌
● พนักงาน‌สามารถ‌สร้าง‌คำ‌การ‌สลับ‌กะ‌งาน‌/‌วัน‌หยุด‌กับ‌เพื่อนร่วม‌งาน‌ได้‌เอง‌ ‌เพียง‌รอ‌คำ‌อนุมัติ‌จาก‌หัวหน้า‌งาน‌ ‌
● สะดวก‌ต่อ‌การ‌จัดการ‌งาน‌ระบบ‌ ‌โดย‌จะ‌ไม่‌เกิด‌ความ‌ผิด‌พลาด‌ของ‌ตาราง‌การ‌ทำ‌งงา‌นที่‌ทับ‌
ซ้อน‌กัน‌ ‌
● HRเข้า‌ถึง‌ข้อมูล‌ตาราง‌การ‌ทำงาน‌ที่‌ถูก‌ต้อง‌ได้‌ตลอด‌เวลา‌ ‌

ค่าลดหย่อนภาษี คือ
ค่าลดหย่อนและยกเว้นเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบในการคำนวณภาษีที่กฎหมายกำหนดให้นำไปหักออกจากเงินได้ ได้อีกหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว

เงินเดือนเท่าไหร่ถึงเสียภาษี
– เงินเดือนไม่เกิน 10,000 บาท = ไม่ต้องยื่นภาษี
– เงินเดือนไม่เกิน 26,583.33 บาท = ต้องยื่นภาษี แต่ไม่ต้องเสียภาษี
– เงินเดือนมากกว่า 26,583.33 บาท = ต้องยื่นภาษี และต้องเสียภาษี
ถ้าไม่ได้จ่ายประกันสังคมแลเงินเดือนไม่เกิน 25,833.33 บาท = ต้องยื่นภาษี แต่ไม่ต้องเสียภาษี
ถ้าไม่ได้จ่ายประกันสังคมแลเงินเดือนเกิน 25,833.33 บาท = ต้องยื่นภาษี และต้องเสียภาษี

วิธีการคำนวน
สมมติว่าคุณมีเงินเดือน เดือนละ 26,583.33 บาท x 12 เดือน (ต้องคิดทั้งปี) = 319,000 บาท

สูตรคำนวนเงินได้สุทธิ ดังนี้

เงินได้ 319,000 บาท – ค่าใช้จ่าย 100,000 บาท** – ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท – เงินกองทุนประกันสังคม 9,000 บาท = เงินได้สุทธิ 150,000 บาท

หมายเหตุ **ค่าใช้จ่ายได้ 50% (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท)

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ใช้ในการคำนวนภาษี 

ตาราง

มีอะไรที่ใช้ลดหย่อนได้บ้าง

ค่าลดหย่อนส่วนตัว และครอบครัว

1

ค่าลดหย่อน กลุ่มประกัน 

2

ค่าลดหย่อน กลุ่มเงินออม และการลงทุน

3

ค่าลดหย่อน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์

4

ค่าลดหย่อน กลุ่มเงินบริจาค

5

ค่าลดหย่อนอื่นๆ ตามมาตรการรัฐในปีนั้นๆ เช่น

6

หมายเหตุ ผู้มีเงินได้ควรติดตามข่าวสารการลดหย่อนภาษีแต่ละปี เพื่อการวางแผนภาษีอย่างถูกต้องและเหมาะสม

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.rd.go.th/publish/557.0.html