#ระบบลางานออนไลน์ #ภาษี2565 #ลดหย่อนภาษี #โปรแกรมลาออนไลน์ #ประกัน #ระบบลาออนไลน์ #โปรแกรมคิดเงินเดือนพนักงาน #โปรแกรมเงินเดือน #โปรแกรมเงินเดือน #hr #HR #ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล #โปรแกรมคํานวณเงินเดือน
วันนี้เรามาต่อกันที่ EP. 2 กันนะคะ
สำหรับ ep. นี้จะเกี่ยวกับกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
เราเชื่อเลยว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ ว่าการทำประกัน หรือการลงทุนต่าง ๆ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ วันนี้ EZY-HR เลยรวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนในโพสต์นี้ มาอ่านกันเยอะ ๆ น้าาา !
ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน
📍 ลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน
ยื่นภาษี
1.เงินส่งสมทบประกันสังคม สำหรับในปี 2564 นี้
สามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 5,100 บาท จากเดิมที่ลดหย่อนได้สูงสุด 9,000 บาท ( เนื่องจากปี 2564 มีการปรับลดเงินนำส่งสมทบประกันสังคมเพื่อลดภาระในช่วงโควิด-19 ถึง 3 รอบ คือ รอบเดือนมกราคม เหลือ 3% ,รอบเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เหลือ 0.5% และรอบเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน เหลือ 2.5% )
2.ประกันชีวิต ประกันแบบสะสมทรัพย์
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เงื่อนไข
– เป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
– เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในไทย
3. ประกันสุขภาพ
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันต้องไม่เกิน 25,000 บาท
ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
4.ประกันสุขภาพของบิดา-มารดา
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
เงื่อนไข
– บิดา – มารดา ต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษีที่หักลดหย่อนเกิน 30,000 บาท
4.เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
เงื่อนไข
– ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
– เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย
📍 ลดหย่อนภาษีกลุ่มการลงทุน (รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท )
ยื่นภาษีลงทุน
1.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
2.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท
3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
สามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
4.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
ตามที่จ่ายจริง สูงสุดปีละ 13,200 บาท
5.เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ
15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
📍 ค่าลดหย่อนภาษีที่อยู่อาศัย
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
📍 ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
ยืนภาษีกลุ่มบริจาค
1. เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง
นำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
2. เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ
หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น
3. เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักลดหย่อนจากเงินบริจาคเพื่อการศึกษา
และทั้งหมดนี่เป็นการลดหย่อนภาษีที่ EZY-HR รวมไว้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนน้าาา
อย่าลืมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีปีนี้กันนะทุกคน
_____________________________________
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318

เพราะเหตุใด EZY-HR Application จึงต้องมีโหมดเช็คอินผ่านมือถือให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย
.
.

แอพส์ เช็คอิน เข้าเวลางาน ทันสมัย
เหตุผลที่ EZY-HR Application มีโหมดการเช็คอินอย่างหลากหลายนั้น เพื่อต้องการตอบสนองความต้องการในการใช้งานของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมโดยคำนึงถึงรูปแบบธุรกิจเป็นหลัก ?
.
เช่นพนักงาน PC ตามห้างหรือพนักงานออกบูท ทางแอดมินสามารถกำหนดให้พนักงานทำการเช็คอินพร้อมถ่ายรูปตนเองคู่บูทได้ หรือหากเป็นเซลล์ที่ต้องออกไปพบลูกค้าบ่อยๆไม่สะดวกสแกนนิ้วผ่านเครื่องฟิงเกอร์สแกนก็สามารถเช็คอินผ่านมือถือได้ เป็นต้น
.
.
Q: ในกรณีที่ต้องการตั้งค่าการเช็คอิน – เอ้าท์ ผ่าน EZY-HR Application สามารถตั้งค่าการใช้งานของพนักงานแต่ละท่านให้ต่างกันได้หรือไม่ เช่นมีพนักงานบางกลุ่มที่ต้องการ Record เวลาเข้างานเท่านั้นไม่สนใจรูปและโลเคชั่นเป็นต้น

A: การใช้งาน EZY-HR Application สามารถเลือกโหมดในการเช็คอินเป็นรายบุคคลได้ค่ะ โดยมีโหมดการใช้งานให้เลือกดังต่อไปนี้

✅ No: ปิดการใช้งานเช็คอินจากหน้า mobile application

✅ NoFakeGPSCheck: ไม่อนุญาตให้มือถือติดตั้งโปรแกรมโกง GPS (จะมีแค่มือถือรุ่น Note 4 เท่านั้น)

✅ AllowNoGps: สามารถเช็คอินได้ แม้มือถือจะจับสัญญาณ GPS ไม่เจอ

✅ SelfieForceCheck: จะต้องถ่ายรูปและจับสัญญาณ GPS ให้เจอถึงจะสามารถเช็คอินได้

✅ BeaconForceCheck: จะต้องจับสัญญาณบีคอนให้เจอถึงจะสามารถกด เช็คอินได้

✅ BeaconAndSelfieForceCheck: จะต้องจับสัญญาณบีคอนให้เจอพร้อมถ่ายรูปจึงจะสามารถเช็คอินได้

สามารถดูวิธีการตั้งค่าได้ที่ https://bit.ly/323w1hC

ทางเลือกใหม่ของระบบบันทึกเวลาทำงานสำหรับองค์กรที่ทันสมัย
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.ezy-hr.com

11

บีค่อน (Beacon) คืออะไร

เมื่อก่อนตอนที่ผู้เขียนยังทำบันทึกเวลา (Time Attendance) อยู่นั้น เดิมจะติดตั้งเครื่องสแกนนิ้ว สแกนหน้า บัตรตอก พนักงานบันทึกลายนิ้วมือ และดึงรายงานมาสรุป เพื่อจัดทำเงินเดือน แต่ปัญหาคือ หากต้องไปติดตั้งทุกสาขา ก็จะมีค่าใช้จ่ายไม่คุ้มกัน จึงหาเทคโนโลยีใหม่มาช่วย

Slider_home_beacon_beacon

บีค่อน (Beacon)  คอยตรวจจับส่งสัญญาณไปที่มือถือของพนักงาน เพื่อเช็คเวลาเข้า – ออกบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน ความสามารถเด่นของบีคอนคือ การให้ข้อมูลตำแหน่งระยะใกล้ที่แม่นยำ เป็นอุปกรณ์ตัวเล็กๆ มีหลายสี ลักษณะคล้ายแมลงเต่าทอง ติดตั้งไม่ยุ่งยาก มีความทนทาน ที่สำคัญราคากันเอง

ขั้นตอนการทำงาน

  1. พนักงานเข้าสำนักงานไปที่ตำแหน่งบีค่อน
  2. เปิด Application บันทึก
  3. ถ่ายรูปผ่าน Application
  4. ข้อมูล check in – check out จะถูกส่งไปที่กรุ๊ปไลน์ทันที
  5. ข้อมูลจากแต่ละสาขาจะถูกรวบรวมเข้าไปที่ส่วนกลางโดยอัติโนมัติ เพื่อนำไปคำนวณเงินเดือนได้ทันที

 

บีค่อน กับธุรกิจบริการ

– ทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับ เช่น ถ้าลูกค้าเดินไปบริเวณที่ติดบีค่อน ลูกค้าจะได้รับข้อความ “ยินดีต้อนรับ” และข้อมูลร้าน เช่น โปรโมชั่น เมนูเด่นประจำสัปดาห์ เป็นต้น

– ใช้เป็นระบบนำทาง พื้นที่อาคาร พื้นที่ในร่ม พื้นที่จำกัด ซึ่ง GPS ทำได้แม่นยำไม่มากพอ

– ทำระบบบัตรคิว พวกที่ต้องต้อนรับลูกค้าจำนวนมาก

– ทำเป็นตัวปลดล๊อกจักรยานด้วยแอปมือถือ เป็นตัวติดตามไปเก็บจักรยาน

– เอาไว้ใช้ติดตามสัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของสำคัญ เช่น พวงกุญแจ เป็นต้น

หากเพื่อนๆ สนใจ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมลองสอบถามเจ้าหน้าที่ของ EZY-HR ได้นะคะ ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

  1. มีปัญหา (Pain Point) อะไรลิสมาเป็นข้อๆ 

เริ่มต้นก่อนซื้อโปรแกรมเงินเดือน ควรลิสปัญหาของการทำเงินเดือนออกมาก่อน เช่น

– ช่วงทำเงินเดือนทีไร กลับบ้านดึกทุกวัน จะดีแค่ไหน ถ้าเกิดว่าระบบที่เราใช้ ทำให้เรา work from home ได้

– กว่าจะรวบรวมโอทีจากแต่ละสาขา เล่นเอาเหนื่อย แบบนี้ต้องคลาวด์นะ

– การเขียนลงบันทึกมีโอกาสเอื้อประโยชน์กันได้ ระบบที่ดีต้องมีฟีเจอร์ให้ระบุงานที่ทำได้นะ

– เอางานกลับไปทำที่บ้านก็ไม่ได้ เพราะข้อมูลอยู่ในเซิร์ฟเวอร์

ต่างๆ เหล่านี้จะให้คำตอบคุณได้ว่าคุณต้องการโปรแกรมเงินเดือนแบบไหนมาช่วยงาน 

 

  1. ให้ผู้ใช้งาน (User) ร่วมคัดเลือกโปรแกรม

โดยทั่วไป ผู้ที่ตัดสินใจซื้อโปรแกรม คือ เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหาร เมื่อนำมาให้พนักงานใช้งานแล้วเกิดปัญหาใช้งานยากพนักงานอาจมีการต่อต้าน แต่อันที่จริงแล้วเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงมักจะมีการต่อต้านเสมอ ดังนั้น การเลือกซื้อโปรแกรมควรให้ payroll มีส่วนร่วมในการคัดเลือกจะช่วยลดปัญหา

 

  1. งบประมาณ

งบประมาณที่ตั้งจากฝ่ายบริหารเป็นปัจจัยหลักที่ต้องนำมาใช้ในการตัดสินใจ แต่หากว่าเราได้โปรแกรมที่เหมาะสมนำมาช่วยงานได้ กรณีราคาเกินมาบ้างเราก็ยังมีเหตุผลในการนำเสนอที่ชัดเจน เพราะเราได้วิเคราะห์ความต้องการตามข้อ 1 แล้ว ซึ่งเดี๋ยวนี้ระบบคลาวด์ดีๆ จะทำให้งานของเราง่ายขึ้นเยอะ เพราะเซิฟเวอร์ก็ไม่ต้องซื้อ ไอทีก็ไม่ต้องจ้าง

 

  1. การบริการ

การบริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเราติดปัญหาควรจะมีคำแนะนำ พร้อมช่วยแก้ปัญหาโดยทันทีทันใด สังเกตุจาก…

– โทร.ติดต่อง่ายไหม มีผู้รับสายเป็นอย่างไร นำเสียงยินดีให้บริการหรือไม่

– การเข้ามานำเสนอการใช้งานโปรแกรม (Demo) เป็นอย่างไร ผู้ขายสื่อสารชัดเจน เข้าใจง่าย ยิ้มแย้มแจ่มใส น่าพูดคุย เป็นต้น

– การตอบเมล์รวดเร็วหรือเปล่า

– จำนวน Support ในบริษัทมีเพียงพอ

– เครื่องมือในการช่วย Support เช่น การทำคู่มืออ่านง่าย มีคู่มือออน์ไลน์ มีวีดีโอสื่อการสอน มี Line Support ฯลฯ

 

  1. โปรแกรมเงินเดือนยืดหยุ่นมากแค่ไหน 

สำรวจข้อจำกัด เงื่อนไข สิ่งแวดล้อมภายในบริษัท ยกตัวอย่างเช่น…. บริษัทมีโปรแกรมทะเบียนพนักงานอยู่แล้ว ต้องการแค่โปรแกรมคำนวณเงินเดือน ต้องโอนย้ายข้อมูลจากโปรแกรมทะเบียนพนักงานไปเข้าโปรแกรมเงินเดือนตัวใหม่ ดังนั้นโปรแกรมจึงควรยืดหยุ่นรองรับการโอนย้าย (Import File)

ควรตั้งคำถามให้มากว่า ทำอันนี้ได้ไหม ทำอย่างนี้ได้ไหม เพื่อทราบว่าโปรแกรมหยืดหยุ่นรองรับการใช้งานของเรา ***ที่สำคัญควรสอบถามด้วยว่ามีค่าบริการเพิ่มหรือเปล่า จะได้คำนวณงบประมาณไม่ผิดพลาด***

 

  1. ตัวโปรแกรมเงินเดือน

รูปแบบ สบายตา โปรแกรมใช้งานง่าย ตอบสนองความต้องการ มีให้เข้าไปทดลองใช้ ที่สำคัญการออกรายงานเพื่อนำส่งส่วนราชการตรงกับแบบฟอร์มหรือเปล่า อีกด้านการออกรายงานแสดงผลตรงกับความต้องการผู้บริหารหรือไม่

 

  1. ความปลอดภัย

– Background ของบริษัทฯ จัดตั้งมากี่ปีแล้ว เคยมีผู้ใช้บริการกับโปรแกรมเมอร์ที่เป็นฟรีแลนซ์ แต่พอหลังจากโปรแกรมเสร็จก็ไม่สามาถติดต่อได้อีกเลย….

– บริษัทคู่ค้าน่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น เช่าพื้นที่เก็บข้อมูลจากที่ใด (Cloud Server) ระบบปลอดภัยหรือไม่ อุปกรณ์เครื่องสแกนนิ้ว (Finger Scan) จากยี่ห้อใด รับประกันกี่ปี ฯลฯ

 

  1. ลูกค้าที่ใช้บริการ

หาข้อมูล หรือสอบถามลูกค้าที่ใช้บริการ ยิ่งถ้าเป็นเสียงจากผู้ใช้บริการช่วยบอกเราว่าโปรแกรมใช้งานได้ดี ก็สามารถเพิ่มความมั่นใจให้เรามาขึ้น 

 

  1. มองถึงอนาคต

– โปรแกรมมีการปรับปรุงตามคำแนะนำของลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

– พัฒนา Update ให้ทันตามความต้องการ และทันยุคสมัย 

– มีการเตรียมตัว รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Disruption) 

หากคิดวิเคราะห์ตามนี้แล้วก็คงไม่มีคำว่า “เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน” หรอกนะคะ ถ้าเพื่อนๆ ต้องการคำปรึกษาก็สามารถเข้ามาสอบถามกันได้ เรายินดีให้คำปรึกษาค่ะ

9 หลักการ ที่ควรคำนึงก่อนเลือกซื้อโปรแกรมเงินเดือน