📣 ปุกาศ ปุกาศ 📣
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสงสัย เรื่องของมาตรการลดเงินสมทบประกันสังคม
วันนี้ EZY-HR สรุปมาให้แล้ว ว่าลดเท่าไหร่ เริ่มตอนไหน ระยะเวลากี่เดือน

มาตรการลดเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน
มาตรการลดเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน

📍 เริ่ม พ.ค. ถึง ก.ค. 65 📍

นายจ้าง
จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือ ร้อยละ 1

มาตรา 33
จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือ ร้อยละ 1

มาตรา 39
ลูกจ้างจะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 9 เหลือ ร้อยละ 1.9

มาตรา 40 ระยะเวลา **6 เดือน ก.พ. ถึง ก.ค. 65**
จะได้ลดเงินสมทบในแต่ละทางเลือกลงร้อยละ 40
ทางเลือกที่ 1
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 70 บาท ลดลงเหลือ 42 บาท
ทางเลือกที่ 2
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 100 บาท ลดลงเหลือ 60 บาท
ทางเลือกที่ 2
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 300 บาท ลดลงเหลือ 180 บาท

_____________________________________

Web : www.ezy-hr.com
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318
#ระบบลางานออนไลน์ #ภาษี2565 #ลดหย่อนภาษี
#โปรแกรมลาออนไลน์ #ประกัน
#ระบบลาออนไลน์
#โปรแกรมคิดเงินเดือนพนักงาน
#โปรแกรมเงินเดือน #โปรแกรมเงินเดือน
#hr #HR #ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล
#โปรแกรมคํานวณเงินเดือน

ตอนที่แล้ว เราได้พูดถึงภาระงานของฝั่ง HR ที่ต้องทำในแต่ละเดือน

ตัวช่วย งาน HR ให้ง่าย

ด้วยภาระงานจำนวนมากขนาดนี้ ฝ่าย HR ก็มักจะปวดหัวกับการทำงานในแต่ละอย่างต้องให้รวดเร็วและทันเวลาเสมอ เพราะงาน HR มีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องแทบจะทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขาดลามาสายที่ต้องสรุปเป็นรายเดือน การประเมินผลทดลองงาน การสรุปภาษีประจำปี การประเมินผลงานประจำปี การจัดทำสถิติรายวัน รายเดือน รายไตรมาส และรายปี เป็นต้น

เช่น ประกันสังคมและรายงาน ภงด.1 ต้องส่งภายในระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละเดือน ไม่เช่นนั้นจะโดนโทษปรับ ซึ่งคิดเป็นรายวัน หรือการต่อเอกสาร Work Permit ของพนักงานที่เป็นต่างชาติ ถ้าดำเนินการไม่ทัน พนักงานท่านนั้นจะต้องกลับประเทศก่อนและต้องเสียเวลาในการดำเนินการเอกสารใหม่ เป็นต้น

ถ้ามีระบบที่มีความสามารถเหล่านี้ได้นะ จะช่วยทำให้งาน  HR ง่ายขึ้นมากโดย

  1. ทำการเก็บบันทึกประวัติที่เกิดขึ้น ซึ่งง่ายต่อการค้นหาโดยสามารถเรียกดูข้อมูลตามที่เราต้องการได้ โดยสามารถเรียกดูได้เป็นรายแผนก รายคน หรือตามประเภทของแต่ละฟังค์ชั่นได้
  2. ทำการประมวลผล ในฟังค์ชั่นและรายงานหลายๆ อย่างในระบบ มีการประมวลผลและสรุปยอดต่างๆ ให้ ทำให้ช่วยประหยัดระยะเวลา โดยสามารถเรียกดูได้เป็นรายแผนก รายคน หรือตามประเภทของแต่ละฟังค์ชั่นได้
  3. แจ้งเตือน ในระบบมีหลายๆ ฟังค์ชั่นที่สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้งานได้ ทำให้ไม่พลาดที่จะทำงานที่สำคัญๆ เช่น แจ้งเตือนพนักงานผ่านทดลองงานหรือกำลังจะหมดสัญญาจ้าง แจ้งเตือนพนักงานที่ลาในวันนั้น แจ้งเตือนใบคำขอต่างๆ ที่รอการอนุมัติ แจ้งเตือนใบอนุญาตหมดอายุ แจ้งเตือนเอกสารราชการหมดอายุ แจ้งเตือนการต่อทะเบียนรถ การจ่ายภาษีโรงเรือน หรืออื่นๆ ตามที่มีการบันทึกไว้ในระบบ เป็นต้น
  4. อำนวยความสะดวก ระบบมีการอำนวยความสะดวกในการทำงานแก่ทั้ง Admin และพนักงานผู้ใช้งาน โดยสามารถสร้าง User ให้พนักงานเข้าทำงานในระบบได้ เป็นการลดงานของ Admin ที่จะต้องมาทำเองทุกอย่าง เมื่อเปิดให้พนักงานเข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งใบคำขอเรื่องต่างๆ ก็สามารถขอผ่านระบบได้ หัวหน้างานก็สามารถอนุมัติให้พนักงานได้อย่างรวดเร็ว ทาง Admin หรือผู้มีตำแหน่งสูงขึ้นไปตามลำดับชั้นก็สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ พนักงานยังสามารถตรวจสอบประวัติหรือรายการต่างๆ ย้อนหลังได้ด้วยตนเอง เช่น ลาอะไรไปแล้วบ้าง คงเหลือวันลาแต่ละประเภทกี่วัน ใบลาได้รับการอนุมัติหรือยัง เป็นต้น
  5. รายงาน ในระบบมีรายงานที่หลากหลายและมีจำนวนมาก เพื่อให้ครอบคลุมการทำงานให้ได้มากที่สุด และตรงความต้องการของทาง HR ในการเรียกใช้ข้อมูล และสามารถนำรายงานไปใช้ต่อได้ โดยสามารถเรียกออกรายงานเป็น Excel หรือ PDF ก็ได้
  6. ลดระยะเวลา เนื่องจากระบบเราสามารถเปิดให้ทุกคนเข้ามาใช้งานได้ ดังนั้น การทำงานจากเดินที่ใช้เป็นเอกสาร ต้องส่งอีเมล์ หรือเดินไปส่งเอกสาร หรือต้องรอส่งเอกสารเข้าสำนักงานใหญ่ จะหมดไป เพราะกดส่งแล้วจะวิ่งไปหาผู้เกี่ยวข้องทันที และผู้เกี่ยวข้อง สามารถอนุมัติหรือเห็นเอกสารได้ทันที ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการรอการอนุมัติหรือตอบกลับ หรือแม้กระทั่งลดเวลาในการที่พนักงานจะมาสอบถามกับทาง HR ถึงรายละเอียดต่างๆ ที่พนักงานต้องการทราบ เช่น วันลาเหลือเท่าใด ค่าลดหย่อนที่ยื่นมา ได้นำเข้าระบบแล้วหรือไม่ หรือแม้กระทั่งสามารถดูฟังค์ชั่นการประเมินภาษีที่สรุปยอดคร่าวๆ ให้ว่า คาดว่าพนักงานจะต้องเสียภาษีเท่าใด ทำให้พนักงานวางแผนเรื่องการลดหย่อนภาษีล่วงหน้าได้
  7. ลดการใช้กระดาษ เนื่องจากเรามีการอำนวยความสะดวกผ่านระบบ ดังนั้น จะสามารถลดการใช้กระดาษได้ เพราะเป็นการใช้ผ่านระบบทั้งหมด ถึงแม้จะลดได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็สามารถลดรายจ่ายลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นใบลา ใบโอที การส่งเบิกต่างๆ

“งาน HR ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” “HR มัวทำอะไรอยู่” “วันๆ ไม่เห็น HR ทำอะไร” “HR ก็ดีแต่หักเงินพนักงาน”

คุณเคยได้ยินคำเหล่านี้มั้ยคะ ซึ่งคนที่เป็น HR จริงๆ ฟังแล้วก็รู้สึกปวดใจเหลือเกิน คำถามคือ จริงๆ แล้ว คนที่ไม่ใช่ HR รู้มั้ยว่า HR ต้องทำอะไรบ้าง

HR-Job-Assistant
Photo by Helena Lopes from Pexels

งาน HR โดยหลักแล้ว คืองานด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล หรือพูดง่ายๆ ว่า คืองานที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน ซึ่งไม่ใช่แค่การทำเงินเดือนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การดูแล การพัฒนาพนักงานให้มีความสุข ให้พร้อมสำหรับการทำงาน การดูแลด้านสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การจัดเตรียม และจัดหาอุปกรณ์การทำงาน เพื่อให้เกิดความสะดวกและความพร้อมในการทำงาน หรือเรียกได้ว่า กายดี ใจดี ก็พร้อมที่จะลุยกับงานได้

ปัจจุบัน งานหลักๆ ของ HR แบ่งออกเป็นสองลักษณะใหญ่ๆ คือ HRM หรือ Human Resource Management หรือการจัดการทรัพยากรบุคคล และ HRD หรือ Human Resource Development หรือการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ทั้งสองส่วนประกอบด้วยอะไรบ้าง

  1.  การวางแผนกำลังคน งบประมาณ กลยุทธ์ เราคงเคยได้ยินแผนก Recruit กันมาก่อน แต่จะมีใครบ้างที่คิดว่า การจะจ้างพนักงานสักคนนั้น ไม่ใช่แค่เดินมาบอก HR ว่า รับคนหน่อย งานเยอะ ไม่ไหวแล้ว แล้ว HR จะสามารถรับคนเพิ่มให้ได้ทันที เพราะโดยปกติแล้ว HR จะต้องมีการจัดทำแผนงานของทั้งบริษัทอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ทราบถึงทิศทางที่บริษัทจะเดินไป ต้องการคนแบบไหนเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนั้น ต้องใช้คนเท่าไหร่ และงบประมาณที่จะได้รับ ซึ่งจะต้องทำการจัดสรรและบริหารสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ลงตัว ไม่เช่นนั้น บริษัทก็จะใหญ่ เทอะทะ และมีรายจ่ายด้านพนักงานที่ไม่จำเป็น
  2. การสรรหาและว่าจ้าง เมื่อมีการวางแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทเรียบร้อย ต่อไปก็คือการสรรหาบุคคลากรที่สามารถตอบสนองต่อการทำงานของบริษัทเข้ามาทำงาน เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตและเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งจะต้องมีการกำหนดคุณสมบัติ จำนวนที่จะรับ ทักษะที่ต้องใช้ รวมถึงกำหนดระยะเวลาการรับสมัคร เพื่อไม่ให้มีการใช้เวลาในการรับสมัครยาวเกินไป
  3. งานพัฒนาบุคลากร คือการให้การอบรมความรู้เกี่ยวกับบริษัท วัฒนธรรมองค์กร การทำงาน กฎระเบียบ รวมถึงการพัฒนาทักษะอื่นๆ หรือส่งเสริมให้พนักงานมีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพ เช่น การส่งไปฝึกอบรมตามสถาบันต่างๆ เพื่อเพิ่มทักษะและประสบการณ์ของพนักงาน
  4. งานจ่ายค่าตอบแทน เมื่อพนักงานมีการทำงาน ก็ต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนการทำงานให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน เงินโอที เงินโบนัส เป็นต้น
  5. การประเมินผล การประเมินผลมีความหลากหลายมาก แล้วแต่บริษัทจะมีการจัดให้ประเมินผลแบบใดบ้าง ซึ่งโดยรูปแบบหลักๆ แล้ว จะมีการประเมินผลเมื่อครบกำหนดทดลองงาน และการประเมินผลประจำปี นอกจากนี้ ก็จะมีการจัดประเมินผลเมื่อมีการเลื่อนตำแหน่ง เพื่อประเมินศักยภาพของผู้นั้น ว่าเหมาะสมตามที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือไม่ หรืออาจจะเป็นการประเมินผลการทำงานทุกไตรมาส หรือทุกครึ่งปี เป็นต้น
  6. งานบริหารจัดการ การให้คำปรึกษา งานแรงงานสัมพันธ์ ในข้อ 6 นี้ จะมีรายละเอียดงานค่อนข้างกว้างมาก ซึ่งจะเป็นงานอื่นๆ ของ HR ที่พนักงานไม่ค่อยได้คิดถึงหรืออาจจะนึกไม่ถึงหรือไม่ทันสะกิดใจ และฝ่าย HR เอง ก็ค่อนข้างแยกงานส่วนนี้ออกเป็นส่วนๆ ยากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทที่มี HR ไม่มากนัก
    งานในข้อนี้ จะประกอบไปด้วย การบริหารจัดการด้านงานเอกสาร เช่น การออกประกาศต่างๆ หนังสือเวียน หนังสือเชิญประชุม
    การจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น งานเลี้ยงประจำปี การจัดแข่งกีฬาประจำปี เป็นต้น

การให้คำปรึกษา เมือพนักงานรู้สึกอึดอัดใจในการทำงาน ไม่ว่าจะจากสาเหตุใดก็ตาม การให้พนักงานได้ระบายออกมา เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเป็นคนเก่งแล้ว คือคนที่บริษัทจะเสียไปไม่ได้ ความรู้สึกอึดอัด ภาระงาน เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้างาน เป็นประเด็นหลักๆ ที่ทำให้พนักงานลาออกเสมอๆ ดังนั้น ถ้า HR ใส่ใจในพนักงานคอยจัดการแก้ไขหรือประนีประนอมปัญหาให้ได้ ก็จะทำให้พนักงานรู้สึกดีขึ้น

การติดต่อหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น ประกันสังคม สรรพากร กรมแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมการจัดหางาน ตลอดจนกรมตรวจคนเข้าเมือง กรมตำรวจ โรงพยาบาล ธนาคาร หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การส่งประกันสังคม การนำส่งรายงานภาษี การต่อเอกสาร work permit การตรวจประวัติอาชญากรรม การติดต่อบริษัทประกัน ต่อสัญญาประกันสุขภาพ ติดต่อธนาคาร ติดต่อกองทุนสำหรับทำกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และอื่นๆ อีกมากมาย

งานด้านการรักษากฎระเบียบวินัยของพนักงาน ให้รางวัล และลงโทษ เพื่อส่งเสริมให้พนักงานที่ทำดีได้มีโอกาสก้าวหน้าหรือได้รับรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ขณะที่พนักงานที่กระผิดก็ต้องถูกลงโทษเพื่อเป็นการตักเตือนมิให้กระทำผิดซ้ำ

และงานสุดท้ายที่คงไม่มีใครคิดถึงก็คือ การจัดเตรียมสภาพแวดล้อม อุปกรณ์ การซ่อมบำรุงสถานที่ เพื่อให้พนักงานพร้อมที่จะทำงาน เช่น คอมพิวเตอร์ไม่พอ ก็ต้องจัดซื้อ อุปกรณ์ชำรุดก็ต้องแจ้งซ่อม แสงสว่างไม่เพียงพอก็ต้องติดเพิ่ม ห้องดูทึบไป ก็อาจต้องสร้างบรรยากาศ เช่น อาจจะทาสีใหม่หรือหาต้นไม้มาประดับเล็กน้อย อย่าคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กนะคะ เพราะสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เมื่อสั่งสมกันนานๆ แล้ว จะทำให้เกิดการสะสมและส่งผลกระทบต่อร่างกายหรือจิตใจพนักงานได้

ครั้งหน้าจะมาคุยกันถึงเรื่องของพนักงานกันบ้าง

อยากรู้ว่าโปรแกรมของเราจะช่วยคุณทางด้านงาน HR ได้อย่างไร คลิกที่นี่