📣 ปุกาศ ปุกาศ 📣
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสงสัย เรื่องของมาตรการลดเงินสมทบประกันสังคม
วันนี้ EZY-HR สรุปมาให้แล้ว ว่าลดเท่าไหร่ เริ่มตอนไหน ระยะเวลากี่เดือน

มาตรการลดเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน
มาตรการลดเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน

📍 เริ่ม พ.ค. ถึง ก.ค. 65 📍

นายจ้าง
จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือ ร้อยละ 1

มาตรา 33
จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือ ร้อยละ 1

มาตรา 39
ลูกจ้างจะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 9 เหลือ ร้อยละ 1.9

มาตรา 40 ระยะเวลา **6 เดือน ก.พ. ถึง ก.ค. 65**
จะได้ลดเงินสมทบในแต่ละทางเลือกลงร้อยละ 40
ทางเลือกที่ 1
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 70 บาท ลดลงเหลือ 42 บาท
ทางเลือกที่ 2
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 100 บาท ลดลงเหลือ 60 บาท
ทางเลือกที่ 2
ลดการส่งเงินสมทบจากเดิม 300 บาท ลดลงเหลือ 180 บาท

_____________________________________

Web : www.ezy-hr.com
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318
#ระบบลางานออนไลน์ #ภาษี2565 #ลดหย่อนภาษี
#โปรแกรมลาออนไลน์ #ประกัน
#ระบบลาออนไลน์
#โปรแกรมคิดเงินเดือนพนักงาน
#โปรแกรมเงินเดือน #โปรแกรมเงินเดือน
#hr #HR #ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล
#โปรแกรมคํานวณเงินเดือน

#ระบบลางานออนไลน์ #ภาษี2565 #ลดหย่อนภาษี #โปรแกรมลาออนไลน์ #ประกัน #ระบบลาออนไลน์ #โปรแกรมคิดเงินเดือนพนักงาน #โปรแกรมเงินเดือน #โปรแกรมเงินเดือน #hr #HR #ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล #โปรแกรมคํานวณเงินเดือน
วันนี้เรามาต่อกันที่ EP. 2 กันนะคะ
สำหรับ ep. นี้จะเกี่ยวกับกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
เราเชื่อเลยว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ ว่าการทำประกัน หรือการลงทุนต่าง ๆ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ วันนี้ EZY-HR เลยรวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนในโพสต์นี้ มาอ่านกันเยอะ ๆ น้าาา !
ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน
📍 ลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน
ยื่นภาษี
1.เงินส่งสมทบประกันสังคม สำหรับในปี 2564 นี้
สามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 5,100 บาท จากเดิมที่ลดหย่อนได้สูงสุด 9,000 บาท ( เนื่องจากปี 2564 มีการปรับลดเงินนำส่งสมทบประกันสังคมเพื่อลดภาระในช่วงโควิด-19 ถึง 3 รอบ คือ รอบเดือนมกราคม เหลือ 3% ,รอบเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เหลือ 0.5% และรอบเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน เหลือ 2.5% )
2.ประกันชีวิต ประกันแบบสะสมทรัพย์
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เงื่อนไข
– เป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
– เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในไทย
3. ประกันสุขภาพ
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันต้องไม่เกิน 25,000 บาท
ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
4.ประกันสุขภาพของบิดา-มารดา
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
เงื่อนไข
– บิดา – มารดา ต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษีที่หักลดหย่อนเกิน 30,000 บาท
4.เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
เงื่อนไข
– ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
– เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย
📍 ลดหย่อนภาษีกลุ่มการลงทุน (รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท )
ยื่นภาษีลงทุน
1.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
2.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท
3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
สามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
4.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
ตามที่จ่ายจริง สูงสุดปีละ 13,200 บาท
5.เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ
15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
📍 ค่าลดหย่อนภาษีที่อยู่อาศัย
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
📍 ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
ยืนภาษีกลุ่มบริจาค
1. เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง
นำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
2. เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ
หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น
3. เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักลดหย่อนจากเงินบริจาคเพื่อการศึกษา
และทั้งหมดนี่เป็นการลดหย่อนภาษีที่ EZY-HR รวมไว้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนน้าาา
อย่าลืมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีปีนี้กันนะทุกคน
_____________________________________
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318

ยังใช้โปรแกรมเดิมอยู่หรอ ?

เป็นคำถามที่เหมือนจะจี้ใจดำ HR หลาย ๆ คน ที่อยากเปลี่ยนโปรแกรมใหม่ แต่บริษัทไม่อนุมัติสักที วันนี้เราเลยจะพาไปดูข้อดี ที่ทำไมถึงควรเปลี่ยนโปรแกรมใหม่

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป HR อย่างเรา ๆ ก็อยากให้อะไร ๆ เปลี่ยนตาม โดยเฉพาะระบบการทำงานหลังบ้าน ที่อยากให้ทันสมัยขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น มีฟังก์ชั่นครบ และที่สำคัญทำงานเรียลไทม์มากขึ้น ไม่ต้องมาคอยทวง หรือตามเอกสาร

ทำไมถึงควรเปลี่ยนโปรแกรมใหม่
ทำไมถึงควรเปลี่ยนโปรแกรมใหม่

แล้ว….. คือไม่ได้อวยหรืออะไร แต่เพราะแอปเรามันดี และตอบโจทย์ HR ยุคใหม่มากกก
ด้วยฟังก์ชั่นที่ครบ เข้าใช้งานง่ายผ่านคอม หรือโทรศัพท์ก็ได้ แถมยุคโควิดแบบนี้ก็สามารถทำงานที่บ้านได้แบบแผนกอื่น ๆ อีกด้วย แค่นี้ก็เป็นเหตุผลมากพอที่เราควรจะเปลี่ยนมาใช้ EZY-HR แล้ว

แต่……….. ยังไม่หมดแค่นั้น เราจะขอเล่าเพิ่มอีกนิดว่ามีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง

  • สแกนเข้า/ออกงาน ง่าย ๆ ได้ทุกที่
  • เช็คโควต้าวันหยุด ขาด ลา มาสายได้แบบเรียลไทม์
  • เบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ผ่านแอพได้เลย
  • มีประวัติเกี่ยวกับโควิดแค่มีฟังก์ชั่นแบบนี้ก็ช่วยให้ HR อย่างเราทำงานง่ายขึ้นเป็นกอง
    ถ้า HR คนไหนสนใจ ก็ลองมาคุยกับเราได้น้าาา
    รับรองว่าบริษัทอนุมัติให้เปลี่ยนอย่างแน่นอน

ถ้าพูดถึงเรื่องยื่นภาษีทีไร เพื่อน ๆ หลายคนก็แอบหนักใจทุกที

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถลดหย่อนได้นะทุกคนนน !

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 10,000 บาท/เดือน
หรือ 120,000/ปี ต้องยื่นภาษีทุกคน และไม่ใช่ทุกคนที่จะโดนเรียกเก็บภาษี
และที่สำคัญ คือ การคำนวนภาษี คำนวนจากรายได้หลังโดนหักลบค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้ว บอกเลยว่าเพื่อน ๆ ทุกคนสบายใจได้

ยื่นภาษีปี 64 ลดหย่อนอะไรได้บ้าง EZY-HR โปรแกรมเงินเดือน

มาดูกันดีกว่าว่ายื่นภาษีปี 64 ลดหน่อยอะไรได้บ้าง?

1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส จำนวน 60,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องถามกฎหมาย และคู่สมรสจะต้องไม่มีรายได้
3. ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาทต่อครรภ์ โดยสามีสามารถลดหย่อนภาษีในกรณีที่ภรรยาไม่มีเงินได้ เอกสารหลักฐานที่ใช้สำหรับการลดหย่อนภาษี คือ ใบเสร็จรับเงิน และใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาล
4. ค่าลดหย่อนบุตร คนละ 30,000 บาท โดยจะต้องเป็นบุตรโดยกฎหมาย หรือบุตรบุญธรรม และมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรืออายุไม่เกิน 25 ปี
5. ค่าลดหย่อนบุตร คนที่ 2 ที่เกิดปี 2560 เป็นต้นไป
สามารถลดหย่อยนได้ คนละ 60,000 บาท
6. ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและคู่สมรส ซึ่งบิดามารดาจะต้องไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้ไม่เกินคนละ 30,000 บาทต่อปี และต้องมีอายุ 60ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
สามารถลดหย่อนได้ คนละ 30,000 บาท
7. ค่าลดหย่อนกรณีอุปการะผู้พิการหรือบุคคลทุพลภาพ สามารถลดหย่อนได้ คนละ 60,000 บาท และผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และมีบัตรประจำตัวผู้พิการ
และทั้งหมดนี่เป็นการลดหย่อนภาษีที่ EZY-HR รวมไว้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนน้าาา
Line official : @ezyhr
Tel. : 095-951-4318
Posted in HR.

ก่อนวางแผนอัตรากำลัง……มีการประเมินองค์ประกอบเหล่านี้แล้วหรือยัง?

วางแผนกำลังคน

การประเมินอัตรากำลังซึ่งต้องพิจารณาองค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่

  • พิจารณาความสำคัญของงาน
  • พิจารณาความเหมาะสมของโครงสร้างองค์กร
  • พิจารณาความเหมาะสมของทรัพยากร
  • พิจารณาความเหมาะสมของการจัดระดับของตำแหน่ง

 

เมื่อพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้แล้วคงไม่เกินเครื่องมือเหล่านี้

  1. โครงสร้างองค์กรที่ชัดเจน (Organization chart)

วาดภาพหรือวางผังองค์ให้ชัดเจน ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าองค์กรต้องการกี่หน่วยงาน แต่ละหน่วยงานต้องการกำลังคนที่คน (อย่าลืมผนวกข้อมูลเป้าหมายธุรกิจด้วย) เมื่อได้โครงสร้างองค์กรแล้วควรนำมาสรุปเป็นตารางตัวเลขอัตรากำลังที่มีอยู่ลงในแบบฟอร์มจะช่วยให้ HR เห็นชัดเจนมากขึ้น

  1. รายละเอียดงาน (Job Description)

การกำหนดหน้าที่งาน หรือรายละเอียดงานเป็นข้อมูลประกอบทำให้ทราบว่าพนักงานแต่ละ ส่วนงานมีหน้าที่รับผิดชอบงานอะไร ส่วนไหน มีส่วนช่วยคำนวณค่างานว่าควรเพิ่ม ควรโอนย้ายคนไปช่วยส่วนไหน และสุดท้ายคือจำนวนคนที่มีอยู่เกินกว่างานที่มีหรือเปล่า

หากต้องรับเพิ่มก็จะช่วยให้ท่านรู้ว่ารับแล้วเค้าจะมาอยู่ส่วนไหน ทำอะไร มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรบ้าง และควรเป็นพนักงานระดับหัวหน้า หรือระดับปฏิบัติการที่ท่านต้องการจริงๆ ซึ่ง JD จะเป็นต้นทางสำหรับการสรรหาที่จะได้คนที่มาทำงาน

  1. ระบบการประเมินผลงาน

การประเมินผลพนักงาน Performance Appraisals หรือ Evaluation (แล้วแต่องค์กรไหนจะเรียกอย่างไร) ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ก็มีมากมาย เช่น ประเมินแบบ MBO, PMS, KPI, BSC และระบบประเมินผลงานที่ปัจจุบันกำลังพูดถึง OKR

ไม่ว่าท่านจะใช้แบบประเมินอันไหน มันก็คือเครื่องมือที่ช่วยสร้างกรอบ ทิศทาง การชี้วัด เพื่อนำมาประเมินความเหมาะสมของทรัพยากรบุคคลที่ท่านมีอยู่ในองค์กร

 

ในครั้งหน้าผู้เขียนจะมาแนะนำเทคนิคการวิเคราะห์อัตรากำลัง พร้อมแนะนำวิธีนำไปปรับใช้จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนมี และหวังแบ่งปันเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย

 



Photo by JESHOOTS.com from Pexels

เมื่อกล่าวว่าการทำ Onboarding เป็นสิ่งสำคัญกับองค์กรและอะไรคือการทำ Employee Onboarding  ล่ะ จะมีเฉพาะ Orientation เหรอ? หรือจะต้องมีการอบรม Onboarding? จริงๆก็ถูกนะ เพราะว่า Orientation และการอบรม เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Onboarding แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด

team-1928848_1280

 

การทำ Onboarding เป็นกระบวนการที่อาศัยเวลา

ในระยะแรกของการทำงานใหม่ในองค์กร พนักงานใหม่ในองค์กรใหม่ ตำแหน่งใหม่ในองค์กรเดิม ตำแหน่งเดิมสาขาใหม่ มีอะไรใหม่ก็แลดูคล้ายว่าต้องทำ Onboarding ทั้งนั้น เนื่องจากเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาวะของชีวิตพนักงาน สภาวะองค์กร สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ เมื่อต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตคือความหวั่นไหว ความไม่รู้ ความว่างเปล่า ชีวิตคนหนึ่งคนใช้เวลากับการเรียนในสถานศึกษาหลายปี ระหว่างการเรียนนั้นมีช่วงที่ได้พบชีวิตการทำงานสั้นๆในลักษณะการฝึกงาน บางคนไม่มีโอกาสเรียนในระดับที่สูงไปถึงช่วงที่ได้รับการฝึกงาน แต่ต้องมาใช้ชีวิตพนักงานจริงในทันที เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงจากวัยเรียนไปเป็นวัยทำงานอย่างรวดเร็ว กระบวนการ Onboarding Process ที่ดีนั้น จะสามารถเข้ามาช่วยให้พนักงานใหม่ๆใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัยทำงาน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้องค์กรมีพนักงานที่ดี สร้างผลงานดีๆ การ Onboarding ไม่เพียงแต่ช่วยพนักงานใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ยังช่วยพนักงานที่ย้ายมาจากที่ทำงานที่อื่นมาใหม่ที่นี่ด้วย

 

ช่วงเวลาเริ่มต้นของการทำ Onboarding Program คือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้

รู้จักตัวเอง รู้จักกัน รู้จักองค์กร ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และต้องอาศัยเวลา ในการถ่ายทอด พนักงานเองก็ต้องใช้เวลาในการจดจำ การทำ Onboarding ในส่วนนี้จะได้ผลเมื่อทำร่วมกับ Company Touring ให้พนักงานจดจำตามสิ่งที่พบ

เมื่อผ่านพ้นช้วงแรกไป พนักงานต้องเข้าทำงานในแผนกหรือฝ่ายตามตำแหน่งของงาน การจัดพี่เลี้ยงและคู่หูที่เหมาะสม จะช่วยพนักงานเรื่องความสัมพันธ์ในองค์กรได้มาก เพราะนอกจากการแล้ว พนักงานมีช่วงพักเพื่อกินข้าว ก็มีบ้างที่มีคนชอบกินข้าวคนเดียว แต่ก็รู้จักทางไปร้านอาหาร โรงอาหาร ร้านขนม ทางลัดจากคนที่ทำงานร่วมกัน เรื่องสับสนที่พนักงานใหม่พบบ่อยคือหมายเลขโทรศัพท์ภายในองค์กร ใครดูแลเรื่องอะไรที่พนักงานต้องติดต่อด้วย ปัญหาในการทำงานที่พนักงานหาทางแก้ ก็มีหัวหน้างานเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ สอนงาน ตรวจงาน

 

ช่วงระหว่างการ Onboarding และพบได้ในช่วงท้ายๆของกระบวนการคือการประเมินผล

การประเมินผลการทำงานเป็นการสื่อสารอย่างเป็นทางการกับพนักงาน เพื่อสรุปภาพรวมของการใช้ชีวิตในสภาวะใหม่ของพนักงาน เพื่อรับฟังสิ่งที่พนักงานพบหรือมีข้อสงสัยที่ไม่สามารถคุยกับคู่หูที่จัดให้ การแนะนำในสิ่งที่พนักงานต้องแก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติม ยังเป็นการบอกระยะเวลาการทำงานที่ผ่านไปในแต่ละช่วงของพนักงานด้วย

 

กระบวนการทำ Employee Onboarding นั้นเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน

และต้องแข่งกับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในฐานะพนักงานใหม่ การ Onboarding ที่ได้ผลนั้นไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ต้องปรับไปตามสภาพองค์กรว่าต้องการผลลัพธ์แบบไหน และต้องปรับให้เข้ากับแนวโน้มของพนักงานตามตำแหน่งหรือละเอียดมากๆ คือการปรับตามความสามารถในการเรีบนรู้ของพนักงานโดยยึดหลักใหญ่ไว้

 

 

สนใจเกี่ยวกับ บทความการพัฒนาองค์กรยุคใหม่ โดยการนำเอาเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้
ติดตามเราได้อีกช่องทางหนึ่งได้ที่ เฟสบุ้คเพจโปรแกรมเงินเดือนและบุคคลออนไลน์ EZY-HR

สวัสดีครับ  วันนี้ผมมีประเด็นเล็กๆ แต่สำคัญจะมาบอกกล่าวครับ ก็คือ ตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการปรับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปเมื่อไม่นานมานี้นั้น อัตราภาษีใหม่ ค่าลดหย่อนใหม่ที่ว่า จะเริ่มใช้เมื่อใด

 

อัตราภาษีใหม่2560

 

ดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่องนะครับ แต่ก็นั่นล่ะครับ มีหลายท่านโทรเข้ามาบอกให้ผมช่วยปรับอัตราภาษีในโปรแกรมตามมติคณะรัฐมนตรีให้ด้วย… ผมสตั๊นไป 3 วิ อัตราอะไรหว่า นึกได้ว่า เรื่องอัตราภาษีใหม่แหงๆ ก็เลยอธิบายให้หลายๆ ท่านได้ฟังไปว่า อัตราภาษีใหม่ที่ว่านี้ เริ่มใช้ในปีหน้าครับ หรือก็คือ เป็นอัตราภาษีที่จะเริ่มใช้ในปีภาษี 2560 นั่นเอง

ผมเข้าใจนะครับ เพราะเรื่องภาษีเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ทุกคนไม่อยากทำผิดและไม่อยากไปจ่ายเพิ่มอีกเมื่อถึงปลายปี อยากจะจ่ายให้จบๆ กันไปเสียตั้งแต่ในปีเลย

ดังนั้น เมื่อทราบดังนี้แล้ว ก็ทำงานอย่างสบายใจไปก่อนครับ แล้วปีหน้าจะยิ่งสบายใจกว่านี้จากการเพิ่มเงินค่าลดหย่อนที่ลดลงได้มากกว่าเดิมในหลายๆ รายการ

และอย่าลืม กำลังจะหยุดยาว 3 วันแล้ว ไปเที่ยวไหนในปีนี้อย่าลืมเรียกหาเอกสารสำหรับนำไปยื่นสรรพากรเพื่อใช้ในการลดหย่อนค่าท่องเที่ยวด้วยนะครับ ขอให้ทุกท่านเที่ยวให้สนุกและปลอดภัยในการเดินทางครับ

Posted in HR.

ระบบใบลาออนไลน์ (E-LEAVE)

ระบบใบลาออนไลน์ หรือว่า E-LEAVE เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การบริหารงานในส่วนของการจัดการวันลาของพนักงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องแม่นยำ เนื่องจากการจัดการวันลา เป็นงานที่จำเป็นต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก

วันลาหยุดของแต่ละองค์กรที่สามารถสร้างขึ้นมาได้ในระบบโปรแกรมฝ่ายบุคคลออนไลน์ EZY-HR มีดังต่อไปนี้

1. วันหยุดพักผ่อนประจำปี หรือว่า ANNUAL LEAVE

2. วันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ทบมาจากปีที่แล้ว หรือ ANNUAL CARRYOVER

3. วันหยุดลากิจ หรือ BUSINESS LEAVE

4. วันหยุดลาป่วย หรือ SICK LEAVE

5. วันหยุดลาคลอด หรือ MATERNITY LEAVE

6. วันหยุดลาโดยไม่รับเงินเดือน หรือ LEAVE WITHOUT PAY

7. วันหยุดชดเชย หรือ COMPENSATION LEAVE

8. วันหยุดลาบวชหรือไปประกอบพิธีฮัจญ์ ORDINATION/HAJJ LEAVE

9. วันหยุดเพื่อลารับราชการทหาร หรือ MILITARY LEAVE

ซึ่งในระบบของ EZY-HR นั้น ผู้ดูแลระบบสามารถที่จะกำหนดให้ใช้วันหยุดแต่ละประเภทในระบบได้ และยังสามารถที่จะกำหนดจำนวนวันลาทั้งหมดที่พนักงานจะสามารถนำไปใช้ประจำปีนั้นๆในระบบใบลาออนไลน์ EZY-HR ได้ด้วยตัวของผู้ดูแลระบบเอง

 

ระบบใบลาออนไลน์